วิธีเลือกรองเท้าวิ่งคู่ใจให้ดีต่อสุขภาพเท้า
15 Oct, 2022 / By
sneaker-brand
วิธีเลือกรองเท้าวิ่งคู่ใจให้ดีต่อสุขภาพเท้า
การวิ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่าย แค่มีรองเท้าคู่ใจสักคู่ก็เพียงพอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนพื้นผิวที่เรียบ พื้นถนนในสวนสาธารณะ หรือ บนลู่วิ่ง และการวิ่งเทรลที่พื้นมีความขรุขระ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม คือ รองเท้า ที่จำเป็นต้องมีวิธีเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะสม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ช่วยเสริมให้วิ่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยวันนี้เรามีวิธีการเลือกรองเท้าคู่ใจให้ดีต่อสุขภาพเท้า
1.เลือกให้เหมาะกับลักษณะของอุ้งเท้า
สิ่งนี้ก็สำคัญ เพราะการเลือกรองเท้าให้ถูกกับลักษณะของอุ้งเท้าจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บได้ โดยวิธีการทดสอบนั้นง่ายมากๆ เพียงคุณนำเท้าไปจุ่มน้ำแล้วเหยียบลงบนกระดาษก็จะเกิดเป็นรูปร่างขึ้นมา
2.ส้นเท้าต้องกระชับ ไม่หลวมและไม่แน่นเกิน
มาต่อกันที่เรื่องส้นเท้า ควรจะเลือกรองเท้าวิ่งที่กระชับกับส้นเท้าพอดี ไม่หลวม ไม่แน่นเกินไป ลองสวมใส่ดู หากรู้สึกเจ็บให้เปลี่ยนคู่ทันที เพราะถ้าคุณนำไปใส่วิ่งจะเจ็บมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้คุณควรลองร้อยเชือกหลวมๆ สุดท้ายให้คุณร้อยเชือกจนถึงรูสุดท้ายเสมอเพื่อล็อกข้อเท้าให้นิ่ง ไม่ให้เสียดสีกับรองเท้าจนเกิดบาดแผลได้
3.ความกว้างและความยาวของรองเท้าวิ่งต้องพอดี
ความกว้าง ควรมีความกว้างมากพอที่จะขยับเท้าได้บ้างเล็กน้อย อย่าเลือกแน่นจนเกินไป ไม่อย่างนั้นเท้าจะเสียดสีกับพื้นรองเท้า จนทำให้เกิดการบาดเจ็บได้
ความยาว ด้านความยาวก็เช่นกัน ไม่ควรเลือกแน่นจนเกินไป นิ้วเท้าที่ยาวที่สุดไม่ควรสัมผัสกับบริเวณ นิ้วเท้าแต่ไม่ต้องหลวมจนเกินไป ให้ทดสอบผูกเชือกรองเท้าแล้วลองวิ่งไปรอบๆ ดู ถ้าส้นไม่หลุดเป็นไปใช้ได้
4.เลือกรองเท้าให้เหมาะกับประเภทการวิ่ง
รองเท้าวิ่งแต่ละคู่นั้นออกแบบมาให้ใช้งานแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการวิ่งและพื้นผิวที่นำไปใช้วิ่ง คุณควรจะรู้ตัวเองก่อนว่าจะนำไปใช้วิ่งที่ไหน วิ่งแข่ง วิ่งบนเทรล หรือวิ่งระยะไกล โดยการเลือกรองเท้าวิ่งที่ใช่กับงานที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันคุณจากการบาดเจ็บได้
5.รองเท้าต้องมีน้ำหนักเบาและระบายอากาศดี
สำรวจน้ำหนักของรองเท้าวิ่งที่คุณจะซื้อก่อนทุกครั้ง เพราะว่าเราเลือกซื้ออุปกรณ์ชิ้นนี้เพื่อมาช่วยให้คุณวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น รองเท้าวิ่งควรจะมีน้ำหนักที่เบา เพื่อช่วยให้การเคลื่อนไหวลื่นไหลมากยิ่งขึ้นและไม่หน่วงเท้า ซึ่งนอกจากเรื่องน้ำหนักแล้ว ควรระบายอากาศได้ดี เพราะถ้าระบายอากาศไม่ดี อาจจะเกิดการอับชื้น
6.เลือกซื้อในตอนเย็น
แนะนำให้คุณเลือกซื้อรองเท้าวิ่งในตอนเย็น เพราะเป็นช่วงที่เท้าของคุณขยายตัวเต็มที่ที่สุด ซึ่งแปลว่ารองเท้าวิ่งที่คุณเลือกมาจะมีขนาดที่พอดีและสวมได้สบายขณะวิ่งนั่นเอง ถ้าซื้อในช่วงเวลาอื่นๆ ก็อาจจะสวมใส่ได้สบายในเวลานั้นๆ แต่พอตกเย็นเมื่อไหร่ คุณจะรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที
7.มีความยืนหยุ่นดี
ปัจจัยส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บของเท้าขณะวิ่ง คือ ความยืดหยุ่นของรองเท้า เพราะรองเท้าที่มีความยืดหยุ่นในแบบที่พอดีกับเท้า จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการบาดเจ็บได้ สังเกตว่ารองเท้ามีความยืดหยุ่นมากน้อยแค่ไหน หากปลายรองเท้ามีความแข็งมากเกินไป จะทำให้รองเท้าไม่ยืดหยุ่น และไม่รองรับสรีระของเท้าขณะวิ่ง
8.รองรับการกระแทกได้
รองเท้าที่รับแรงกระแทกได้ไม่ดี อาจจะส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าหรือฝ่าเท้าได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องวิ่งระยะทางไกลเป็นเวลานาน ดังนั้น รองเท้าวิ่งที่ดี ควรมีคุณสมบัติรองรับแรงกระแทกได้ดี มีการออกแบบพื้นรองเท้าที่หนานุ่ม ไม่ก่อให้เกิดอาการเมื่อย เจ็บเท้าขณะวิ่ง